
เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท (ประเทศไทย) ได้ทำการขนถ่ายตู้สินค้าครบ 20 ล้านทีอียู นับตั้งแต่เปิดดำเนินงานมาในปี 2002

ในการฉลองร่วมกับพนักงาน Mr. Stephen Ashworth ได้กล่าวว่า “ความสำเร็จในการให้บริการตู้สินค้าผ่านท่าในครั้งนี้ นับเป็นก้าวการเติบโตที่สำคัญของกลุ่มบริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท (ประเทศไทย) จำกัด และกลุ่มบริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท โดยความสำเร็จดังกล่าว เป็นผลมาจากความขยันขันแข็งและความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงานของพนักงานทุกคน พวกเรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก และผมขอขอบคุณทุกๆ คน ที่เกี่ยวข้องกับผลงานครั้งนี้ด้วย”

Mr.Mr. Ashworth กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่าเทียบเรือ A2, A3, C1 และ C2 ของกลุ่มบริษัท ฮัทชิสันฯ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง มีปริมาณตู้สินค้าผ่านท่าใกล้เต็มขีดความสามารถแล้ว และบริษัท ฮัทชิสันฯ จะเริ่มเปิดให้บริการท่าเทียบเรือ D ระยะที่ 1 ประมาณกลางปี 2018 โดยปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่า (quay crane) และปั้นจั่นยกตู้สินค้าแบบล้อยาง (RTG) ของท่าเทียบเรือชุด D ทั้งหมด จะติดตั้งระบบปฏิบัติการแบบกึ่งอัตโนมัติ ที่ใช้เทคโนโลยีควบคุมการปฏิบัติงานระยะไกล (remote control) ที่ช่วยให้การปฏิบัติงานหน้าท่าและการปฏิบัติงานภายในลานวางตู้สินค้ามีความปลอดภัย และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานยกขนตู้สินค้าให้กับสายการเดินเรือ ผู้นำเข้าและผู้ส่งออกที่มาใช้บริการท่าเทียบเรือของกลุ่มบริษัท ฮัทชิสันฯ ได้เป็นอย่างดี

